ในการค้นหาข้อมูลด้วย Search Engine ส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่ผู้ใช้งานทั่วไปมักจะพบเห็น หรือประสบอยู่เสมอๆก็คงจะหนี
ไปไม่พ้นข้อมูลที่ค้นหาได้มีขนาดมากจนเกินไป ดังนั้นเพื่อ ความสะดวกในการใช้งานคุณจึงน่าที่จะเรียนรู้เทคนิคต่างๆเพื่อ
ช่วยลดหรือจำกัดคำที่ค้น หาให้แคบลงและตรงประเด็นกับเรามากที่สุด
1. เลือกรูปแบบการค้นหาให้ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด ส่วนจะเลือกใช้วิธีไหนก็ตามแต่คุณจะเห็นว่า เหมาะสม
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการจะค้นหาข้อมูลที่มีลักษณะทั่วไป ไม่ชี้ เฉพาะเจาะจง ก็ควรเลือกบริการสืบค้นข้อมูล
แบบ Index อย่างของ sanook เพราะ โอกาสที่จะเจอนั้น เปอร์เซ็นต์สูงกว่าจะมานั่งสุ่ม
หาโดยใช้วิธีแบบ Search Engine
2. ใช้คำมากกว่า 1 คำที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกันช่วยค้นหา เพราะจะได้ผลลัพท์ที่มีขนาด แคบลงและชี้เฉพาะมากขึ้น
(ย่อมจะดีกว่าหาคำเดียวโดดๆ) เช่น kanchanaburi+kemapat
3. ใช้บริการของผู้ให้บริการเฉพาะด้าน เช่น การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวของ ภาพยนตร์ก็น่าที่จะเลือกใช้
Search Engine ที่ให้บริการใหล้เคียงกับเรื่องพวกนี้ เพราะผลลัพท์ที่ได้น่าจะเป็นที่น่าพอใจกว่า
4. ใส่เครื่องหมายคำพูดครอบคลุมกลุ่มคำที่ต้องการ เพื่อบอกกับ Search Engine ว่าเรา ต้องการผลการค้นหาที่มีคำใน
กลุ่มนั้นครบและตรงตามลำดับที่เราพิมพ์ทุกคำ เช่น "kemapat school" เป็นต้น
5. การขึ้นต้นของตัวอักษรตัวเล็กเท่ากันหมด Search Engine จะเข้าใจว่าเราต้องการ ให้มันค้นหาคำดังกล่าวแบบ
ไม่ต้องสนใจว่าตัวอักษรที่ได้จะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ดังนั้นหากคุณต้องการอยากที่จะให้มันค้นหาคำตรงตามแบบที่
เขียนไว้ก็ให้ใช้ตัว อักษรใหญ่แทน
6. ใช้ตัวเชื่อมทาง Logic หรือตรรกศาสตร์เข้ามาช่วยค้นหา มีอยู่ 3 ตัวด้วยกันคือ
- AND สั่งให้หาโดยจะต้องมีคำนั้นๆ มาแสดงด้วยเท่านั้น! โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องติดกัน เช่น
thailand and kanchanaburi เป็นต้น
- OR สั่งให้หาโดยจะต้องนำคำใดคำหนึ่งที่พิมพ์ลงไปมาแสดง
- NOT สั่งไม่ให้เลือกคำนั้นๆมาแสดง เช่น thailand and kanchanaburi not goft หมายความว่า ให้ทำการหา
เว็บที่เกี่ยวข้องกับ thailand และ kanchanaburi แต่ต้องไม่มี goft เป็นต้น
7. ใช้เครื่องหมายบวกลบคัดเลือกคำ + หน้าคำที่ต้องการจริงๆ
- (ลบ)ใช้นำหน้าคำที่ไม่ต้องการ
() ช่วยแยกกลุ่มคำ เช่น (pentium+computer)cpu
8. ใช้ * เป็นตัวร่วม เช่น com* เป็นการบอกให้หาคำที่มีคำว่า com ขึ้นหน้าส่วนด้านท้ายเป็น อะไรไม่สนใจ
*tor เป็นการให้หาคำที่ลงท้ายด้วย tor ด้านหน้าจะเป็นอะไรไม่สนใจ
ที่มา http://www.kemapat.ac.th/search8.htm
Firefox 4 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ Test Pilot ซึ่งจะช่วยให้ Mozilla มีข้อมูลดิบไปใช้ประกอบการตัดสินใจออกแบบโปรแกรมในอนาคต (เป็นตัวอย่างที่ดีของ data-driven design) ซึ่งผมก็ยินดีให้ความร่วมมือ ยอมให้ Mozilla มาเก็บข้อมูลของเราไปใช้งาน (Mozilla ก็ถือเป็นองค์กรที่เชื่อถือได้ว่าจะไม่แอบเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้)
ล่าสุดเปิดมาเจอว่าชุดทดสอบ Search Interface มันเด้งขึ้นมาบอกว่า เก็บข้อมูลเสร็จแล้ว พร้อมส่งไปยัง Mozilla หรือไม่ ก่อนกดส่งก็พบว่ามันแสดง "พฤติกรรม" ในการค้นหาข้อมูลของเราให้เห็นด้วย คิดว่าน่าสนใจดีเลยเอามาเขียนถึงเสียหน่อย
พฤติกรรมการใช้งานของผมคือ ค้นผ่านการเปิดเว็บมากที่สุด (คือพิมพ์ Google แล้วค่อยค้นจากเว็บ) ส่วน Search Box ก็ใช้บ้างประมาณ 22% แต่อันที่แทบไม่ใช้เลยคือ URL bar เพราะ mindset เรารู้สึกว่ามันไม่ใช้สำหรับค้นของ (ต่างจาก Omnibar ของ Chrome) สุดท้าย context menu (ลากคำ คลิกขวาแล้วกด search) อันนั้นนานๆ ใช้ทีแต่ใช้ทีไรก็รู้สึกว่ามันสะดวกอยู่
ที่มา http://www.usably.net/
ล่าสุดเปิดมาเจอว่าชุดทดสอบ Search Interface มันเด้งขึ้นมาบอกว่า เก็บข้อมูลเสร็จแล้ว พร้อมส่งไปยัง Mozilla หรือไม่ ก่อนกดส่งก็พบว่ามันแสดง "พฤติกรรม" ในการค้นหาข้อมูลของเราให้เห็นด้วย คิดว่าน่าสนใจดีเลยเอามาเขียนถึงเสียหน่อย
พฤติกรรมการใช้งานของผมคือ ค้นผ่านการเปิดเว็บมากที่สุด (คือพิมพ์ Google แล้วค่อยค้นจากเว็บ) ส่วน Search Box ก็ใช้บ้างประมาณ 22% แต่อันที่แทบไม่ใช้เลยคือ URL bar เพราะ mindset เรารู้สึกว่ามันไม่ใช้สำหรับค้นของ (ต่างจาก Omnibar ของ Chrome) สุดท้าย context menu (ลากคำ คลิกขวาแล้วกด search) อันนั้นนานๆ ใช้ทีแต่ใช้ทีไรก็รู้สึกว่ามันสะดวกอยู่
ที่มา http://www.usably.net/